ジュンジフン。
วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
นิยามคำว่าเพื่อน
เพื่อนบางคน...อาจคอยมองดูคุณอยู่แบบห่างๆ แต่ไม่กล้าแสดงออก
แต่เพื่อนบางคน...อาจจะเข้ามายุ่งกับคุณโดย เพราะเขาเป็นคนกล้า
เพื่อนบางคน...อาจทำทุกสิ่งทุกอย่างให้คุณได้ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
ในขณะที่เพื่อนบางคน...ไม่ได้ยินคำขอร้องของคุณด้วยซ้ำ
เพื่อนบางคน...อาจพูดอะไรตรงๆ กับคุณเพราะรัก
แต่เพื่อนบางคนของคุณ...อาจพูดแต่คำหวานๆ ซึ่งแฝงไปด้วยความน่ากลัว
เพื่อนบางคน...อาจเหมือนคนที่ไม่อดทน มักบ่นอะไรเล็กๆ น้อยๆ เสมอ
แต่จริงๆ แล้วเขา...อาจเป็นคนที่มีความอดทน มากกว่าที่คุณคิดเสียอีก
เพื่อนบางคน...อาจไม่เคยมีความลับกับคุณ อาจแม้กระทั่งให้คุณอ่านไดอารี่แสนหวงของเขา
แต่เพื่อนบางคน...อาจไม่เคยแม้แต่จะเล่าเรื่องชีวิตส่วนตัวให้คุณฟัง
เพื่อนบางคน...อาจไม่เคยโทรศัพท์หาคุณเลย มีแต่คุณเท่านั้นที่มัวแต่โทรหาเขาทุกวัน
เพื่อนบางคน...อาจโทรมาหาคุณได้โดยที่คุณไม่ต้องขอร้องเลยด้วยซ้ำ
เพื่อนบางคน...อาจจะอยู่เคียงข้างคุณ ในยามที่คุณต้องการใครซักคน โดยที่ไม่มีใครขอ
แต่เพื่อนบางคน...ไม่อาจแม้แต่จะรับรู้ความรู้สึกของคุณได้ เพื่อนบางคน...อาจถึงขนาด นั่งร้องไห้กับคุณ
ในขณะที่อีกหลายๆ คน...ไม่สนด้วยซ้ำว่าคุณกำลังอยู่ที่ไหน
เพื่อนบางคน...อาจเคยทำผิดกับคุณบ้าง แต่เขาก็ยังพยายามที่จะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก
ในขณะที่เพื่อนบางคน...ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาทำผิดต่อคุณ
เพื่อนบางคน...อาจหมายความตามที่เขาพูด เช่น ขอโทษก็คือขอโทษ
ในขณะที่เพื่อนบางคน...พูดขอโทษ แต่หมายถึงสมน้ำหน้า
เพื่อนบางคน...อาจจำได้ว่าพยายามโทรหาคุณข้ามวันข้ามคืน ถึงแม้ว่าเขาจะติดต่อคุณไม่ได้ แต่ก็ยังคงพยายาม
ในขณะที่เพื่อนบางคน...อาจจำได้ไม่เกินครึ่งวันด้วยซ้ำว่าคุณโทรหาเขา
เพื่อนบางคน...อาจเหมือนคนที่มีอารมณ์แปรปรวน อาจทำอะไรที่คุณคาดไม่ถึง
แต่ไม่แน่เขา...อาจเป็นน้อยกว่าคุณก็ได้ เพียงแต่คุณไม่รู้ตัว
เพื่อนบางคน...อาจชอบอยู่กับกลุ่มคนเยอะๆ ที่สนุก เฮฮา
แต่เพื่อนบางคน...อาจจะภูมิใจกับกลุ่มเพื่อนเล็กๆ ที่อบอุ่นมากกว่า
เพื่อนบางคน...อาจมัวนั่งเงียบๆ จนให้คุณไม่อาจรู้ได้ว่า เขากำลังคิดอะไรอยู่
แต่ในขณะที่เพื่อนบางคน...พูดมากเสียจนคุณรำคาญ
เพื่อนบางคน...อาจอยากให้คุณรับรู้ความรู้สึกจากเขาทางสายตา
แต่เพื่อนบางคน...อาจเดินมาบอกความรู้สึกกับคุณด้วยตัวเอง
เพื่อนบางคน...อาจจะไม่มีการแสดงออกใดๆ ทั้งสิ้น แม้ว่าคุณจะทำให้เขาเสียใจเพียงใด
แต่ในขณะที่เพื่อนบางคน...อาจเดินเข้ามาต่อว่าคุณ จนคุณไม่เหลือซากก็ได้
เพื่อนบางคน...สามารถอ่านใจคุณได้
ในขณะที่อีกหลายๆ คน...ไม่อาจรับรู้และเข้าใจ ความรู้สึกของคุณได้ แม้ว่าคุณจะบอกเขาไม่รู้กี่ครั้งแล้วก็ตาม
แต่เพื่อนบางคน...อาจจะเข้ามายุ่งกับคุณโดย เพราะเขาเป็นคนกล้า
เพื่อนบางคน...อาจทำทุกสิ่งทุกอย่างให้คุณได้ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
ในขณะที่เพื่อนบางคน...ไม่ได้ยินคำขอร้องของคุณด้วยซ้ำ
เพื่อนบางคน...อาจพูดอะไรตรงๆ กับคุณเพราะรัก
แต่เพื่อนบางคนของคุณ...อาจพูดแต่คำหวานๆ ซึ่งแฝงไปด้วยความน่ากลัว
เพื่อนบางคน...อาจเหมือนคนที่ไม่อดทน มักบ่นอะไรเล็กๆ น้อยๆ เสมอ
แต่จริงๆ แล้วเขา...อาจเป็นคนที่มีความอดทน มากกว่าที่คุณคิดเสียอีก
เพื่อนบางคน...อาจไม่เคยมีความลับกับคุณ อาจแม้กระทั่งให้คุณอ่านไดอารี่แสนหวงของเขา
แต่เพื่อนบางคน...อาจไม่เคยแม้แต่จะเล่าเรื่องชีวิตส่วนตัวให้คุณฟัง
เพื่อนบางคน...อาจไม่เคยโทรศัพท์หาคุณเลย มีแต่คุณเท่านั้นที่มัวแต่โทรหาเขาทุกวัน
เพื่อนบางคน...อาจโทรมาหาคุณได้โดยที่คุณไม่ต้องขอร้องเลยด้วยซ้ำ
เพื่อนบางคน...อาจจะอยู่เคียงข้างคุณ ในยามที่คุณต้องการใครซักคน โดยที่ไม่มีใครขอ
แต่เพื่อนบางคน...ไม่อาจแม้แต่จะรับรู้ความรู้สึกของคุณได้ เพื่อนบางคน...อาจถึงขนาด นั่งร้องไห้กับคุณ
ในขณะที่อีกหลายๆ คน...ไม่สนด้วยซ้ำว่าคุณกำลังอยู่ที่ไหน
เพื่อนบางคน...อาจเคยทำผิดกับคุณบ้าง แต่เขาก็ยังพยายามที่จะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก
ในขณะที่เพื่อนบางคน...ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาทำผิดต่อคุณ
เพื่อนบางคน...อาจหมายความตามที่เขาพูด เช่น ขอโทษก็คือขอโทษ
ในขณะที่เพื่อนบางคน...พูดขอโทษ แต่หมายถึงสมน้ำหน้า
เพื่อนบางคน...อาจจำได้ว่าพยายามโทรหาคุณข้ามวันข้ามคืน ถึงแม้ว่าเขาจะติดต่อคุณไม่ได้ แต่ก็ยังคงพยายาม
ในขณะที่เพื่อนบางคน...อาจจำได้ไม่เกินครึ่งวันด้วยซ้ำว่าคุณโทรหาเขา
เพื่อนบางคน...อาจเหมือนคนที่มีอารมณ์แปรปรวน อาจทำอะไรที่คุณคาดไม่ถึง
แต่ไม่แน่เขา...อาจเป็นน้อยกว่าคุณก็ได้ เพียงแต่คุณไม่รู้ตัว
เพื่อนบางคน...อาจชอบอยู่กับกลุ่มคนเยอะๆ ที่สนุก เฮฮา
แต่เพื่อนบางคน...อาจจะภูมิใจกับกลุ่มเพื่อนเล็กๆ ที่อบอุ่นมากกว่า
เพื่อนบางคน...อาจมัวนั่งเงียบๆ จนให้คุณไม่อาจรู้ได้ว่า เขากำลังคิดอะไรอยู่
แต่ในขณะที่เพื่อนบางคน...พูดมากเสียจนคุณรำคาญ
เพื่อนบางคน...อาจอยากให้คุณรับรู้ความรู้สึกจากเขาทางสายตา
แต่เพื่อนบางคน...อาจเดินมาบอกความรู้สึกกับคุณด้วยตัวเอง
เพื่อนบางคน...อาจจะไม่มีการแสดงออกใดๆ ทั้งสิ้น แม้ว่าคุณจะทำให้เขาเสียใจเพียงใด
แต่ในขณะที่เพื่อนบางคน...อาจเดินเข้ามาต่อว่าคุณ จนคุณไม่เหลือซากก็ได้
เพื่อนบางคน...สามารถอ่านใจคุณได้
ในขณะที่อีกหลายๆ คน...ไม่อาจรับรู้และเข้าใจ ความรู้สึกของคุณได้ แม้ว่าคุณจะบอกเขาไม่รู้กี่ครั้งแล้วก็ตาม
คำสอนของพ่อหลวง
คำสอนของพ่อ
36 แผนชีวิตของพ่อ พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
1.ขอบคุณข้าวทุกเม็ด น้ำทุกหยด อาหารทุกจาน อย่างจริงใจ36 แผนชีวิตของพ่อ พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
2.อย่าสวดมนต์เพื่อขอสิ่งใด นอกจาก”ปัญญา”และ”ความกล้าหาญ”
3.”เพื่อนใหม่”คือของขวัญที่ให้กับตัวเอง ส่วน”เพื่อนเก่า”/”มิตร”คืออัญมณีที่นับวันจะเพิ่มคุณค่า
4.อ่านหนังสือธรรมะปีละเล่ม
5.ปฏิบัติต่อคนอื่น เช่นเดียวกับที่ต้องการให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อเรา
6.พูดคำว่า”ขอบคุณ”ให้มากๆ
7.รักษา”ความลับ”ให้เป็น
8.ประเมินคุณค่าของการให้”อภัย”ให้สูง
9.ฟังให้มาก แล้วจะได้คู่สนทนาที่ดี
10.ยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง หากมีใครตำหนิและรู้แก่ใจว่าเป็นจริง
11.หากล้มลง จงอย่ากลัวกับการลุกขึ้นใหม่
12.เมื่อเผชิญหน้ากับงานหนัก คิดเสมอว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะล้มเหลว
13.อย่าถกเถียงธุรกิจภายในลิฟท์
14.ใช้บัตรเครดิตเพื่อความสะดวก อย่าใช้เพื่อก่อหนี้สิน
15.อย่าหยิ่ง หากจะกล่าวว่า”ขอโทษ”
16.อย่าอาย หากจะบอกใครว่า”ไม่รู้”
17.ระยะทางนับพันกิโลเมตร แน่นอนมันไม่ราบรื่นตลอดทาง
18.เมื่อไม่มีใครเกิดมาแล้ววิ่งได้ จึงควรทำสิ่งต่างๆอย่างค่อยเป็นค่อยไป
19.การประหยัดเป็นบ่อเกิดแห่งความร่ำรวย เป็นต้นทางแห่งความไม่ประมาท
20.คนไม่รักเงิน คือคนไม่รักชีวิต ไม่รักอนาคต
21.ยามทะเลาะกัน ผู้ที่เงียบก่อน คือผู้ที่มีการอบรมสั่งสอนที่ดี
22.ชีวิตนี้ฉันไม่เคยได้ทำงานเลยสักวัน ทุกวันเป็นวันสนุกหมด
23.จงใช้จุดแข็ง อย่าเอาชนะจุดอ่อน
24.เป็นหน้าที่ของเราที่จะพูดให้คนอื่นเข้าใจ ไม่ใช่หน้าที่ของคนอื่น ที่จะทำความเข้าใจในสิ่งที่เราพูด
25.เหรียญเดียวมี 2 หน้า ความสำเร็จ กับ ล้มเหลว
26.อย่าตามใจตัวเอง เรื่องยุ่งๆเกิดขึ้น ล้วนตามใจตัวเองทั้งสิ้น
27.ฟันร่วงเพราะมันแข็ง ส่วนลิ้นยังอยู่เพราะมันอ่อน
28.อย่าดึงต้นกล้าให้โตไวๆ(อย่าใจร้อน)
29.ระลึกถึงความตายวันละ 3 ครั้ง ชีวิตจะมีสุข มีอภัย มีใช้อยู่
30.ถ้าติดกระดุมเม็ดแรกผิด กระดุมเม็ดต่อๆไปก็ผิดหมด
31.ทุกชิ้นงานจะต้องกำหนดวันเวลาแล้วเสร็จ
32.จงเป็นน้ำครึ่งแก้วตลอดชีวิต เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมได้ตลอด
33.ดาวและเดือนที่อยู่สูง อยากได้ต้องปีน”บันไดสูง”
34.มนุษย์ทุกคนมีชิ้นงานมากมายในชีวิต จงทำงานชิ้นสำคัญที่สุดก่อนเสมอ
35.หนังสือเป็นศูนย์รวมปัญญาของโลก จงอ่านหนังสือเดือนละเล่ม
36.ระเบียบวินัย คือ คุณสมบัติที่สำคัญในการดำเนินชีวิต
ปรัญญาจีนที่เตือนใจมนุษย์
ในขณะที่ผู้คนกำลังหลงใหลได้ปลื้มกับสิ่งมายารอบๆ ตัว แถมปล่อยให้คำว่า...อำนาจ กิเลส ตัณหา ทะเยอทะยาน หยิ่งยโส ฯลฯ เข้ามานำทางชีวิต ครอบงำจนหลงลืมไปว่าจริงๆ แล้วชีวิตต้องการอะไร คิดได้เพียงแค่ว่าถนนที่ตัวเองกำลังเดินมุ่งหน้าไปสู่จุดหมาย เป็นเส้นทางที่ดีที่สุดสวยงามที่สุด แม้ว่าจะต้องก้าวข้ามอะไรต่ออะไรไปเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกว่าผิด จนบางครั้งก็เกิดปัญหาต่างๆ ลุ่มเล้าไปสู่หลุมดำที่แสนอันตราย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ใครจะรู้ว่าในสิ่งที่เราอาจจะมองข้ามไป มันยังมีแง่มุมเล็กๆ ดีๆ ที่สามารถใช้นำพาชีวิตไปสู่แสงสว่างหรือความดีได้เหมือนกัน ดั่งเช่นปรัชญาที่ชาวจีนถือว่า…เป็นมนตรานำโชคมาสู่ชีวิต (Chinese tantra totem for good luck) ดังนี้ ...
1. จงให้มากกว่าที่ผู้รับต้องการ และทำอย่างหน้าชื่นตาบาน
2. จงพูดกับคนที่ถึงแม้จะอายุน้อยกว่า แต่เขาก็มีความสำคัญเท่ากัน
3. จงอย่าเชื่อทุกอย่างที่ได้ยิน ใช้ทั้งหมดที่มี และนอนเท่าที่อยากจะนอน
4. เมื่อกล่าวคำว่า "ฉันรักเธอ" จงหมายความตามนั้นจริงๆ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ใครจะรู้ว่าในสิ่งที่เราอาจจะมองข้ามไป มันยังมีแง่มุมเล็กๆ ดีๆ ที่สามารถใช้นำพาชีวิตไปสู่แสงสว่างหรือความดีได้เหมือนกัน ดั่งเช่นปรัชญาที่ชาวจีนถือว่า…เป็นมนตรานำโชคมาสู่ชีวิต (Chinese tantra totem for good luck) ดังนี้ ...
1. จงให้มากกว่าที่ผู้รับต้องการ และทำอย่างหน้าชื่นตาบาน
2. จงพูดกับคนที่ถึงแม้จะอายุน้อยกว่า แต่เขาก็มีความสำคัญเท่ากัน
3. จงอย่าเชื่อทุกอย่างที่ได้ยิน ใช้ทั้งหมดที่มี และนอนเท่าที่อยากจะนอน
4. เมื่อกล่าวคำว่า "ฉันรักเธอ" จงหมายความตามนั้นจริงๆ
5. เมื่อกล่าวคำว่า "ขอโทษ" จงสบตาเขาด้วย
6. ก่อนจะตัดสินใจแต่งงาน จงหมั้นเสียก่อนอย่างน้อย 6 เดือน
7. จงเชื่อในรักแรกพบ
8. อย่าหัวเราะเยาะความฝันของผู้อื่น คนที่ไม่มีฝันก็เหมือนไม่มีอะไร
9. เมื่อรักจงรักให้ลึกซึ้ง และ ร้อนแรง อาจจะต้องเจ็บปวดแต่นั่นคือหนทางเดียวที่ทำให้ชีวิตถูกเติมเต็ม
10. ในเหตุการณ์ขัดแย้ง โต้อย่างยุติธรรม ไม่มีการตะโกนใส่กัน
10. ในเหตุการณ์ขัดแย้ง โต้อย่างยุติธรรม ไม่มีการตะโกนใส่กัน
11. อย่าตัดสินคนเพียงเพราะญาติๆ ของเขา
12. จงพูดให้ช้า แต่ต้องคิดให้เร็ว
13. ถ้าถูกถามด้วยคำถามที่ไม่อยากตอบ จงยิ้มแล้วถามกลับว่า จะรู้ไปทำไม
14. จงจำไว้ว่า สองสิ่งที่ยิ่งใหญ่ คือความรัก และความสำเร็จ ล้วนต้องมีการเสี่ยง
14. จงจำไว้ว่า สองสิ่งที่ยิ่งใหญ่ คือความรัก และความสำเร็จ ล้วนต้องมีการเสี่ยง
15. พูดว่า ขอพระคุ้มครอง เมื่อได้ยินใครจาม
16. เมื่อพ่ายแพ้ จงอย่าสูญเสียบทเรียนไปด้วย
17. จงจำ 3 R :- นับถือผู้อื่น นับถือตนเอง รับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ
18. จงอย่าให้ความขัดแย้งเล็กๆ น้อยๆ มาทำลายมิตรภาพที่ยิ่งใหญ่
19. ทันทีที่รู้ตัวว่าทำผิด ลงมือแก้ไขทันที
20. จงยิ้มเวลารับโทรศัพท์ ผู้ฟังจะเห็นได้จากน้ำเสียงของเรา
21. จงหาโอกาสอยู่กับตัวเองบ้าง
21. จงหาโอกาสอยู่กับตัวเองบ้าง
วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
เล่นดนตรีช่วยชะลอความชราภาพ
เล่นดนตรีช่วยชะลอความแก่
ผลวิจัยสรุปว่า การเล่นดนตรีช่วยลดภาวะชราภาพได้ หลังพบว่า นักดนตรีในวัย 45-65 มักมีความจำดี และสามารถได้ยินเสียงพูดที่อยู่ท่ามกลางเสียงจอแจรอบข้างได้ดีกว่าคนที่ไม่ได้เล่นดนตรี
โดยรายงานชิ้นนี้ตีพิมพ์ในวารสาร PLoS One ระบุว่า นอกจากดนตรีช่วยให้เด็กเรียนรู้ในห้องเรียนได้ดีขึ้นแล้ว การเรียนดนตรียังช่วยลดผลทางลบของการมีอายุมากขึ้นได้อีกด้วย ซึ่งนินา เคราส์ แห่งห้องปฏิบัติการเกี่ยวกับประสาทวิทยาด้านการได้ยิน มหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์นในสหรัฐ บอกว่า คนที่เล่นดนตรีมาตลอดชีวิต ดูจะได้รับประโยชน์ในเรื่องความจำและความสามารถในการได้ยินเสียงพูดในท่ามกลางเสียงจอแจ ซึ่งความสามารถสองประการนี้มักลดลงเมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น และคนที่สูญเสียการได้ยินเพราะภาวะชราอาจนำไปสู่อาการโดดเดี่ยวตัวเองและอาการซึมเศร้าได้
ทั้งนี้ นักวิจัยได้ศึกษานักดนตรี 18 คนกับคนที่ไม่ได้เล่นดนตรี 19 คนซึ่งมีอายุระหว่าง 45-65 ปี ในเรื่องของการได้ยินเสียงพูด ความจำเกี่ยวกับสิ่งที่ได้ยิน ความจำเกี่ยวกับสิ่งที่ได้เห็น พบว่า คนที่เริ่มเล่นดนตรีตั้งแต่อายุ 9 ขวบหรือก่อนหน้านั้น และยังคงเล่นดนตรีมาตลอดชีวิต ทำคะแนนในเรื่องการได้ยินเสียงพูดในที่จอแจ และความจำของสิ่งที่ได้ยินดีกว่าคนที่ไม่ได้เล่นดนตรี ยกเว้นในเรื่องความจำเกี่ยวกับสิ่งที่ได้เห็น ซึ่งคนทั้งสองกลุ่มทำคะแนนได้พอ ๆ กัน
ด้วยเหตุนี้ ดร.เคราส์ จึงสรุปว่า การเล่นดนตรีจะช่วย "ปรับจูน" ระบบประสาท และช่วยลดปัญหาต่าง ๆ ด้านการสื่อสารซึ่งมาพร้อมกับวัยที่สูงขึ้นได้
ผลวิจัยสรุปว่า การเล่นดนตรีช่วยลดภาวะชราภาพได้ หลังพบว่า นักดนตรีในวัย 45-65 มักมีความจำดี และสามารถได้ยินเสียงพูดที่อยู่ท่ามกลางเสียงจอแจรอบข้างได้ดีกว่าคนที่ไม่ได้เล่นดนตรี
โดยรายงานชิ้นนี้ตีพิมพ์ในวารสาร PLoS One ระบุว่า นอกจากดนตรีช่วยให้เด็กเรียนรู้ในห้องเรียนได้ดีขึ้นแล้ว การเรียนดนตรียังช่วยลดผลทางลบของการมีอายุมากขึ้นได้อีกด้วย ซึ่งนินา เคราส์ แห่งห้องปฏิบัติการเกี่ยวกับประสาทวิทยาด้านการได้ยิน มหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์นในสหรัฐ บอกว่า คนที่เล่นดนตรีมาตลอดชีวิต ดูจะได้รับประโยชน์ในเรื่องความจำและความสามารถในการได้ยินเสียงพูดในท่ามกลางเสียงจอแจ ซึ่งความสามารถสองประการนี้มักลดลงเมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น และคนที่สูญเสียการได้ยินเพราะภาวะชราอาจนำไปสู่อาการโดดเดี่ยวตัวเองและอาการซึมเศร้าได้
ทั้งนี้ นักวิจัยได้ศึกษานักดนตรี 18 คนกับคนที่ไม่ได้เล่นดนตรี 19 คนซึ่งมีอายุระหว่าง 45-65 ปี ในเรื่องของการได้ยินเสียงพูด ความจำเกี่ยวกับสิ่งที่ได้ยิน ความจำเกี่ยวกับสิ่งที่ได้เห็น พบว่า คนที่เริ่มเล่นดนตรีตั้งแต่อายุ 9 ขวบหรือก่อนหน้านั้น และยังคงเล่นดนตรีมาตลอดชีวิต ทำคะแนนในเรื่องการได้ยินเสียงพูดในที่จอแจ และความจำของสิ่งที่ได้ยินดีกว่าคนที่ไม่ได้เล่นดนตรี ยกเว้นในเรื่องความจำเกี่ยวกับสิ่งที่ได้เห็น ซึ่งคนทั้งสองกลุ่มทำคะแนนได้พอ ๆ กัน
ด้วยเหตุนี้ ดร.เคราส์ จึงสรุปว่า การเล่นดนตรีจะช่วย "ปรับจูน" ระบบประสาท และช่วยลดปัญหาต่าง ๆ ด้านการสื่อสารซึ่งมาพร้อมกับวัยที่สูงขึ้นได้
สุดยอดเมนูเสริมพลังสมอง
การที่สมองจะเจริญเติบโตได้ดีกว่า 80% มาจากอาหารการกิน แต่เจ้าหนูตัวน้อยที่ยังเลือกกินเองไม่ได้ คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องคัดสรรอาหารที่มีคุณค่า ช่วยพัฒนาสมองมาเสิร์ฟ สารอาหารสำคัญต่อการเพิ่มพลังสมองให้มีครบทุกด้านทั้งสมาธิ ความจำ และสติปัญญาในการแก้ไขปัญหา จริงอยู่ว่าอาหารครบ 5 หมู่สำคัญ แต่เชื่อไหมว่า พระเอกสำคัญที่ขาดไม่ได้และเป็นส่วนเสริมสำหรับสมอง คือ โคลีน DHA และวิตามินบี 12 พระเอกเหล่านี้นำมาทำอาหารใดได้บ้างไปดูกัน
Green Pasta
1-3 year
ส่วนผสม
เส้นแองเจิลแฮร์ 1 ถ้วยตวง
บร็อกโคลี ½ ถ้วยตวง
ถั่วหวาน (Peas) ½ ถ้วยตวง
เนยจืด 1 ก้อน
แฮมหั่นลูกเต๋าทอดกรอบ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1.ต้มเส้นแองเจิลแฮร์คลุกน้ำมันมะกอกทิ้งไว้
2.หั่นบร็อกโคลี่ และแกะเม็ดถั่วลวกในน้ำเดือด เสร็จแล้ว นำมาแช่น้ำเย็น
3.ตั้งกระทะผัดเนยกับแฮมกรอบ เติมน้ำมันมะกอกเล็กน้อย ต่อด้วยแองเจิลแฮร์ และผักที่ลวดแล้วลงไป คลุกเคล้ากับซอสปรุงรส เสร็จเรียบร้อย
Green Pasta
1-3 year
ส่วนผสม
เส้นแองเจิลแฮร์ 1 ถ้วยตวง
บร็อกโคลี ½ ถ้วยตวง
ถั่วหวาน (Peas) ½ ถ้วยตวง
เนยจืด 1 ก้อน
แฮมหั่นลูกเต๋าทอดกรอบ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1.ต้มเส้นแองเจิลแฮร์คลุกน้ำมันมะกอกทิ้งไว้
2.หั่นบร็อกโคลี่ และแกะเม็ดถั่วลวกในน้ำเดือด เสร็จแล้ว นำมาแช่น้ำเย็น
3.ตั้งกระทะผัดเนยกับแฮมกรอบ เติมน้ำมันมะกอกเล็กน้อย ต่อด้วยแองเจิลแฮร์ และผักที่ลวดแล้วลงไป คลุกเคล้ากับซอสปรุงรส เสร็จเรียบร้อย
วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
กรุ๊ปเลือดกับความโกรธ
คนเลือดกรุ๊ป A
คุณอาจจะต้องใช้เวลามากหน่อยกว่าเค้าจะหายโกรธ เพราะเค้าเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น แต่ปกติจะเป็นคนโกรธคนยาก จริงใจกับทุกคน แต่ถ้าลองใครทำให้โกรธล่ะเป็นเรื่องยิ่งเป็นคนที่เค้าไว้ใจแล้วมาหักหลังกัน อาจถึงขั้นไม่ร่วมทางกันเลยเชียว เวลาที่คนกรุ๊ป A โกรธ อย่าพยายามยับยั้งเค้า หรืออย่าไปแก้ตัวแทนคนที่ทำให้เค้าโกรธ เพราะเค้าอาจพาลมาโกรธคุณด้วย พยายามเอาอกเอาใจเรื่องอื่น เวลาจะช่วยให้เค้าหายโกรธได้ แต่ถ้าจะให้ดีอย่าทำให้เค้าโกรธเลยเป็นดี
คนเลือดกรุ๊ป B
คนเลือดกรุ๊ป B จริง ๆ แล้วคนเลือดกรุ๊ปนี้จะอารมณ์ดี ออกจะเป็นคนโกรธง่าย แต่ก็ลืมง่ายด้วย เค้าจะโกรธใครได้ไม่นานนักหรอก สักพักเค้าก็ลืมแล้ว ยิ่งมีเรื่องหนุก ๆ มาเล่าให้ฟัง หรือมีอะไรมันส์...มันส์ให้เค้าทำก็ยิ่งดี ถ้าคนเลือดกรุ๊ป B โกรธขึ้นมา ต้องพยายามอย่าไปใส่ใจมากนักในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าให้ทำเป็นไม่สนใจเค้านะ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นเค้าอาจจะพาลโกรธมากขึ้น แค่อย่าไปพูดรื้อฟื้นทำให้เค้าลืม ๆ ไป ยิ่งลืมเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี
คนเลือดกรุ๊ป AB
คนเลือดกรุ๊ป AB เค้าจะเป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเอง เป็นคนเชื่อมั่นในความคิดของตัวเองสูง ถือดีเป็นที่สุด และไม่ชอบง้อใคร เวลาจะทำอะไรเค้าก็เป็นคนมีเหตุผลพอสมควรแต่เหตุผลก็จะเข้าข้างตัวเองซะมาก เค้าอาจจะทำให้คุณปวดหัวได้หากทำให้เค้าโกรธ เพราะเค้าจะไม่ยอมฟังคำแก้ตัวใด ๆ ทั้งสิ้น ก็บอกแล้วว่าเค้ามีเหตุผลที่ค่อนข้างเข้าข้างตัวเอง ถ้าเค้าโกรธก็ยอมๆ เค้าหน่อย ยอมที่จะเอ่ยคำว่าขอโทษ คงไม่เสียศักดิ์ศรีของคุณเท่าไหร่หรอกมั้ง แค่เนี้ย.....เค้าก็จะหายโกรธแร้วววว..
คนที่มีเลือดกรุ๊ป O
สุดท้าย คนที่มีเลือดกรุ๊ป O ความโกรธของคนเลือดกรุ๊ป O รุนแรงราวกับพายุเฮอริเคนก็ไม่ปาน เค้าจะน่ากลัวมากเมื่ออยู่ในอารมณ์โกรธ อย่าไปขวางเชียวอาจโดนลูกหลง เข้าได้ แต่เค้าเป็นคนมีเหตุผลมากจึงเป็นเรื่อง ที่ยากหากจะทำให้เค้าอารมณ์ดี อย่างที่บอกแล้วว่า ถ้าโกรธจะแรง มากแต่ถ้าเค้ารู้สาเหตุข้อเท็จจริงที่ทำให้เค้าโกรธ อธิบายให้เค้าฟังอย่างมีเหตุผลเค้าก็จะหายโกรธเป็นปลิดทิ้ง ประมาณว่าเหมือนไม่เคยโกรธกัน มาก่อน
คุณอาจจะต้องใช้เวลามากหน่อยกว่าเค้าจะหายโกรธ เพราะเค้าเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น แต่ปกติจะเป็นคนโกรธคนยาก จริงใจกับทุกคน แต่ถ้าลองใครทำให้โกรธล่ะเป็นเรื่องยิ่งเป็นคนที่เค้าไว้ใจแล้วมาหักหลังกัน อาจถึงขั้นไม่ร่วมทางกันเลยเชียว เวลาที่คนกรุ๊ป A โกรธ อย่าพยายามยับยั้งเค้า หรืออย่าไปแก้ตัวแทนคนที่ทำให้เค้าโกรธ เพราะเค้าอาจพาลมาโกรธคุณด้วย พยายามเอาอกเอาใจเรื่องอื่น เวลาจะช่วยให้เค้าหายโกรธได้ แต่ถ้าจะให้ดีอย่าทำให้เค้าโกรธเลยเป็นดี
คนเลือดกรุ๊ป B
คนเลือดกรุ๊ป B จริง ๆ แล้วคนเลือดกรุ๊ปนี้จะอารมณ์ดี ออกจะเป็นคนโกรธง่าย แต่ก็ลืมง่ายด้วย เค้าจะโกรธใครได้ไม่นานนักหรอก สักพักเค้าก็ลืมแล้ว ยิ่งมีเรื่องหนุก ๆ มาเล่าให้ฟัง หรือมีอะไรมันส์...มันส์ให้เค้าทำก็ยิ่งดี ถ้าคนเลือดกรุ๊ป B โกรธขึ้นมา ต้องพยายามอย่าไปใส่ใจมากนักในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าให้ทำเป็นไม่สนใจเค้านะ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นเค้าอาจจะพาลโกรธมากขึ้น แค่อย่าไปพูดรื้อฟื้นทำให้เค้าลืม ๆ ไป ยิ่งลืมเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี
คนเลือดกรุ๊ป AB
คนเลือดกรุ๊ป AB เค้าจะเป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเอง เป็นคนเชื่อมั่นในความคิดของตัวเองสูง ถือดีเป็นที่สุด และไม่ชอบง้อใคร เวลาจะทำอะไรเค้าก็เป็นคนมีเหตุผลพอสมควรแต่เหตุผลก็จะเข้าข้างตัวเองซะมาก เค้าอาจจะทำให้คุณปวดหัวได้หากทำให้เค้าโกรธ เพราะเค้าจะไม่ยอมฟังคำแก้ตัวใด ๆ ทั้งสิ้น ก็บอกแล้วว่าเค้ามีเหตุผลที่ค่อนข้างเข้าข้างตัวเอง ถ้าเค้าโกรธก็ยอมๆ เค้าหน่อย ยอมที่จะเอ่ยคำว่าขอโทษ คงไม่เสียศักดิ์ศรีของคุณเท่าไหร่หรอกมั้ง แค่เนี้ย.....เค้าก็จะหายโกรธแร้วววว..
คนที่มีเลือดกรุ๊ป O
สุดท้าย คนที่มีเลือดกรุ๊ป O ความโกรธของคนเลือดกรุ๊ป O รุนแรงราวกับพายุเฮอริเคนก็ไม่ปาน เค้าจะน่ากลัวมากเมื่ออยู่ในอารมณ์โกรธ อย่าไปขวางเชียวอาจโดนลูกหลง เข้าได้ แต่เค้าเป็นคนมีเหตุผลมากจึงเป็นเรื่อง ที่ยากหากจะทำให้เค้าอารมณ์ดี อย่างที่บอกแล้วว่า ถ้าโกรธจะแรง มากแต่ถ้าเค้ารู้สาเหตุข้อเท็จจริงที่ทำให้เค้าโกรธ อธิบายให้เค้าฟังอย่างมีเหตุผลเค้าก็จะหายโกรธเป็นปลิดทิ้ง ประมาณว่าเหมือนไม่เคยโกรธกัน มาก่อน
เวลาเกิดบอกอะไรคุณได้บ้าง?
* เวลา ๐๕.๐๐-๐๖.๕๙
เป็นคนที่มีมารยาท ทำอะไรระมัดระวัง ค่อนข้างละเอียดถี่ถ้วน ทำงานอะไรแล้วไม่ยอมให้ตก หล่นง่ายๆ เป็นคนใจกว้าง ชอบช่วยเหลือผู้อื่น อารมณ์เสียง่าย แต่ไม่นานก็กลับมายิ้มอย่างเดิมแล้ว ค่อนข้าง เก็บตัว ไม่ชอบวุ่นวายกับใคร แต่ไม่ใช่คนแอนตี้สังคม เพีงแต่ไม่ชอบอะไรที่วุ่นวายเท่านั้นเอง
* เวลา ๐๗.๐๐-๐๘.๕๙
เป็นคนที่มีบุคคลิกของความเป็นผู้นำ ทำให้ผู้อื่นเชื่อถือได้ง่าย เป็นคนไม่กลัวใคร ชอบทำอะไร เสี่ยงๆ ชอบความท้าทาย เป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีความ สามารถในการทำงานต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วงด้วยดี
* เวลา ๐๙.๐๐-๑๐.๕๙
เป็นคนที่ค่อนข้างเนี้ยบ ชอบความสะอาดสะอ้าน รสนิยมดี เป็นคนที่สุภาพอ่อนโยน มีมารยาท เข้า กับคนได้ง่าย จัดว่าเป็นคนมีเสน่ห์ทีเดียว เป็นคนที่ค่อนข้างทะเยอทะยาน มีเป้าหมายในชีวิต
* เวลา ๑๑.๐๐-๑๒.๕๙
เป็นคนร่าเริง มีอารมณืขัน อยู่ที่ไหน ก็ได้เฮที่นั่นเป็นคนรักอิสระ ไม่ชอบให้ใครมาบังคับไม่ชอบอยู่กับที่ ชอบเดินทาง ชอบการผจญภัย การได้พบเห็นอะไรใหม่ๆ ทำให้มีความสุข เป็นคนมีชีวิตชีวา กระตือรือร้น ไม่จู้จี้ จุกจิก
* เวลา ๑๓.๐๐-๑๔.๕๙
เป็นคนที่รักสงบ ไม่ชอบอะไรที่สับสนวุ่นวาย ทำอะไรค่อนข้างระมัดระวังจนบางทีทำให้ชีวิตหมดสนุกเป็นคนที่ซื่อสัตย์ จิตใจดี เป็นคนที่อ่อนน้อม สุภาพ ไม่ชอบทะเลาะกับใคร มีความประนีประนอมสูง ถ้ารักใครขึ้นมาละก็รักจริง ทุ่มเททุกอย่างเพื่อความรัก
* เวลา ๑๕.๐๐-๑๖.๕๙
เป็นคนที่ทำอะไรตามใจตัวเองอยู่เสมอ ไม่สนใจว่าใครจะคิดอย่างไร มักจะทำก่อนที่จะคิด จึงต้องมีเรื่องปวดหัวอยู่เรื่อย เป็นคนที่ฉลาดไหวพริบดี เอาตัวรอดเก่ง กล้าพูด กล้าทำ มีจิตใจที่กล้าแกร่ง เป็นคนที่ดูแล้วค่อนข้างคล่องไปสักนิด แต่เป็นคนที่จิตใจดีทีเดียว ไม่กะล่อนอย่างที่เห็นภาพนอก
* เวลา ๑๗.๐๐-๑๘.๔๙
เป็นคนที่ไว้ตัว มีความคิดที่ค่อนข้างก้าวร้าว เชื่อมั่นในตัวเองสูง ชอบทำอะไรตามระเบียบ ค่อนข้าง จู้จี้ ขี้บ่น ทำอะไรละเอียดถี่ถ้วน ไม่ชอบทำอะไรออกนอกลู่ นอกทาง ทำงานอย่างจริงจัง มีมาตรฐานในการทำงานที่สูงมาก ไม่ชอบทำอะไรชุ่ยๆ
* เวลา ๑๙.๐๐- ๒๐.๕๙
เป็นคนขยันขันแข็ง สู้งานหนักไม่ท้อถอย ทำอะไรตรงไปตรงมา กล้าพูด กล้าทำ เป็นคน กระตือรือร้นในทุกๆ เรื่อง ไม่ชอบฝันกลางวัน ชอบทำความฝันให้เป็นจริงมากกว่า ชอบช่วยเหลือผู้อื่นใจกว้าง เป็นคนที่น่าคบ มีความจริงใจให้กับทุกคน
* เวลา ๒๑.๐๐-๒๒.๔๙
เป็นคนไม่ช่างพูด แต่โรแมนติก ชอบทำอะไรให้ประหลาดใจ ใจดี พูดจาสุภาพ มีเสน่ห์ ไม่ชอบทำ อะไรเร่งร้อน จัดว่าเป็นคนเฉื่อย มีความนุ่มนวลอ่อนโยน
* เวลา ๒๓.๐๐-๐๐.๕๙
เป็นคนมีชีวิตชีวา ไม่อยู่นิ่ง ชอบท่องเที่ยวในที่แปลกใหม่ ชอบทำอะไรเสี่ยงๆ ไม่ชอบอยู่ในกรอบ เป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น เป็นคนรักอิสระมาก ไม่ยอมผูกพันกับใครง่ายๆ
* เวลา ๐๑.๐๒.๕๙
เป็นคนใจเย็น แต่ถ้าโกรธจะรุนแรง ทำอะไรเชื่องช้า ทำไปเรื่อยๆ แต่เป็นคนที่ร่าเริงเข้ากับ คนง่าย
* เวลา ๐๓.๐๐-๐๔.๕๙
เป็นคนชอบทำอะไรท้าทาย เชื่อมั่นในตัวเองสูง ไม่ยอมแพ้ใคร เป็นคนใจกว้าง มองโลกในแง่ดี กล้าพูดในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ ค่อนข้างดื้อ แต่รักใครรักจริง แต่เป็นคนตกหลุมรักได้ง่าย
เป็นคนที่มีมารยาท ทำอะไรระมัดระวัง ค่อนข้างละเอียดถี่ถ้วน ทำงานอะไรแล้วไม่ยอมให้ตก หล่นง่ายๆ เป็นคนใจกว้าง ชอบช่วยเหลือผู้อื่น อารมณ์เสียง่าย แต่ไม่นานก็กลับมายิ้มอย่างเดิมแล้ว ค่อนข้าง เก็บตัว ไม่ชอบวุ่นวายกับใคร แต่ไม่ใช่คนแอนตี้สังคม เพีงแต่ไม่ชอบอะไรที่วุ่นวายเท่านั้นเอง
* เวลา ๐๗.๐๐-๐๘.๕๙
เป็นคนที่มีบุคคลิกของความเป็นผู้นำ ทำให้ผู้อื่นเชื่อถือได้ง่าย เป็นคนไม่กลัวใคร ชอบทำอะไร เสี่ยงๆ ชอบความท้าทาย เป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีความ สามารถในการทำงานต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วงด้วยดี
* เวลา ๐๙.๐๐-๑๐.๕๙
เป็นคนที่ค่อนข้างเนี้ยบ ชอบความสะอาดสะอ้าน รสนิยมดี เป็นคนที่สุภาพอ่อนโยน มีมารยาท เข้า กับคนได้ง่าย จัดว่าเป็นคนมีเสน่ห์ทีเดียว เป็นคนที่ค่อนข้างทะเยอทะยาน มีเป้าหมายในชีวิต
* เวลา ๑๑.๐๐-๑๒.๕๙
เป็นคนร่าเริง มีอารมณืขัน อยู่ที่ไหน ก็ได้เฮที่นั่นเป็นคนรักอิสระ ไม่ชอบให้ใครมาบังคับไม่ชอบอยู่กับที่ ชอบเดินทาง ชอบการผจญภัย การได้พบเห็นอะไรใหม่ๆ ทำให้มีความสุข เป็นคนมีชีวิตชีวา กระตือรือร้น ไม่จู้จี้ จุกจิก
* เวลา ๑๓.๐๐-๑๔.๕๙
เป็นคนที่รักสงบ ไม่ชอบอะไรที่สับสนวุ่นวาย ทำอะไรค่อนข้างระมัดระวังจนบางทีทำให้ชีวิตหมดสนุกเป็นคนที่ซื่อสัตย์ จิตใจดี เป็นคนที่อ่อนน้อม สุภาพ ไม่ชอบทะเลาะกับใคร มีความประนีประนอมสูง ถ้ารักใครขึ้นมาละก็รักจริง ทุ่มเททุกอย่างเพื่อความรัก
* เวลา ๑๕.๐๐-๑๖.๕๙
เป็นคนที่ทำอะไรตามใจตัวเองอยู่เสมอ ไม่สนใจว่าใครจะคิดอย่างไร มักจะทำก่อนที่จะคิด จึงต้องมีเรื่องปวดหัวอยู่เรื่อย เป็นคนที่ฉลาดไหวพริบดี เอาตัวรอดเก่ง กล้าพูด กล้าทำ มีจิตใจที่กล้าแกร่ง เป็นคนที่ดูแล้วค่อนข้างคล่องไปสักนิด แต่เป็นคนที่จิตใจดีทีเดียว ไม่กะล่อนอย่างที่เห็นภาพนอก
* เวลา ๑๗.๐๐-๑๘.๔๙
เป็นคนที่ไว้ตัว มีความคิดที่ค่อนข้างก้าวร้าว เชื่อมั่นในตัวเองสูง ชอบทำอะไรตามระเบียบ ค่อนข้าง จู้จี้ ขี้บ่น ทำอะไรละเอียดถี่ถ้วน ไม่ชอบทำอะไรออกนอกลู่ นอกทาง ทำงานอย่างจริงจัง มีมาตรฐานในการทำงานที่สูงมาก ไม่ชอบทำอะไรชุ่ยๆ
* เวลา ๑๙.๐๐- ๒๐.๕๙
เป็นคนขยันขันแข็ง สู้งานหนักไม่ท้อถอย ทำอะไรตรงไปตรงมา กล้าพูด กล้าทำ เป็นคน กระตือรือร้นในทุกๆ เรื่อง ไม่ชอบฝันกลางวัน ชอบทำความฝันให้เป็นจริงมากกว่า ชอบช่วยเหลือผู้อื่นใจกว้าง เป็นคนที่น่าคบ มีความจริงใจให้กับทุกคน
* เวลา ๒๑.๐๐-๒๒.๔๙
เป็นคนไม่ช่างพูด แต่โรแมนติก ชอบทำอะไรให้ประหลาดใจ ใจดี พูดจาสุภาพ มีเสน่ห์ ไม่ชอบทำ อะไรเร่งร้อน จัดว่าเป็นคนเฉื่อย มีความนุ่มนวลอ่อนโยน
* เวลา ๒๓.๐๐-๐๐.๕๙
เป็นคนมีชีวิตชีวา ไม่อยู่นิ่ง ชอบท่องเที่ยวในที่แปลกใหม่ ชอบทำอะไรเสี่ยงๆ ไม่ชอบอยู่ในกรอบ เป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น เป็นคนรักอิสระมาก ไม่ยอมผูกพันกับใครง่ายๆ
* เวลา ๐๑.๐๒.๕๙
เป็นคนใจเย็น แต่ถ้าโกรธจะรุนแรง ทำอะไรเชื่องช้า ทำไปเรื่อยๆ แต่เป็นคนที่ร่าเริงเข้ากับ คนง่าย
* เวลา ๐๓.๐๐-๐๔.๕๙
เป็นคนชอบทำอะไรท้าทาย เชื่อมั่นในตัวเองสูง ไม่ยอมแพ้ใคร เป็นคนใจกว้าง มองโลกในแง่ดี กล้าพูดในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ ค่อนข้างดื้อ แต่รักใครรักจริง แต่เป็นคนตกหลุมรักได้ง่าย
วันพุธที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)